สำหรับเมนู อาหารภาคกลาง นับว่าเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจ เพราะเป็นอาหารที่ทานง่ายเน้นวัตถุดิบที่หาได้ไม่ยาก มีรสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว เผ็ด หวานเค็มครบรสเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงค่อนข้างได้รับความนิยมทั้งในไทยและในต่างประเทศ ซึ่งบางคนอาจคิดว่าทำตามได้ยาก แต่จริง ๆ แล้วเป็นหนึ่งเมนูอาหารที่ทำทานง่าย ต่อให้เป็นคนที่ไม่เคยทำตามมาก่อนก็สามารถตามรอยสูตรอาหารที่เรานำมาฝากได้
รวม 10 อาหารภาคกลาง สูตรและวิธีการทำ สะดวกสบายอร่อยได้ที่บ้าน
วิธีการทำ อาหารภาคกลาง จะมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน เน้นวัตถุดิบที่หาได้ตามบ้านเป็นหลัก อีกทั้งยังมีรสชาติที่ไม่เผ็ดจนเกินไปจนทำให้ถูกปากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก แถมยังมีเคล็ดลับความอร่อยของอาหารคาวที่ใส่เสน่ห์แบบไทย ๆ ลงไป โดยเราได้รวบรวม 10 สูตรอาหารภาคกลาง มาฝาก เผื่อว่าใครยังคิดไม่ออกว่าจะทำ เมนูอาหาร เมนูไหนดี ก็สามารถทำตามเมนูที่เราแนะนำได้
1.ต้มข่าไก่
ต้มข่าไก่เมนู กับข้าวภาคกลาง ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ได้รู้จักแค่ในหมู่ของคนไทยเท่านั้น เพราะเป็นอาหารประจำชาติที่ต่างชาติต่างพูดถึงเป็นจำนวนมาก เป็นเมนูแกงกะทิซึ่งอยู่คู่กับตำรับอาหารของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน รสชาติกลมกล่อมเผ็ดและเปรี้ยวไม่มากแต่อร่อยถูกปากทุกคนอย่างแน่นอน
ส่วนผสม
- สะโพกไก่ 400 กรัม
- หัวกะทิ 300 มิลลิลิตร
- เห็ดฟาง 200 กรัม
- หางกะทิ 500 มิลลิลิตร
- มะนาว 1 ลูก
- เกลือป่น ครึ่งช้อนชา
- ข่าอ่อน 5 แว่น (หั่นแว่นบาง ๆ)
- ตะไคร้ 3 ต้น (หั่นแฉลบ)
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกแดงและพริกเขียว 10 กรัม
วิธีการทำ
- เริ่มต้นจากการนำสะโพกไก่มาหั่นเป็นชิ้น ๆ ให้มีขนาดพอดีคำ หลังจากนั้นเปิดไฟและนำหม้อไปต่อพร้อมกับเทหัวกะทิใส่ลงไป ใส่ขาอ่อน ใบมะกรูด เกลือ และตะไคร้ต้มพร้อมกับหัวกะทิรอจนกว่ากะทิจะเดือด
- นำเนื้อไก่ลงไปต้มในน้ำกะทิจนกว่าจะสุก ทำการปรุงรสด้วยการใส่พริกแดง พริกเขียว น้ำปลา บีบมะนาวเล็กน้อยจนกว่าจะได้รสชาติที่ถูกใจ เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
2.แกงส้มผักรวม
แกงส้มผักรวมเป็น อาหารภาคกลาง ที่มีคุณค่าทางโภชนาการค่อนข้างสูง แถมยังให้พลังงานต่ำแต่มีแร่ธาตุและใยอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายรวมอยู่ในปริมาณมาก โดย เมนูภาคกลาง เมนูนี้รสชาติจะเน้นที่ความเปรี้ยวของมะขามเปียกผสมผสานกับผักนานาชนิด ได้รสชาติของอาหารเพื่อสุขภาพในรูปแบบใหม่ที่มีทั้งเผ็ด เปรี้ยว เค็มและหวาน
ส่วนผสม
- พริกแกงส้ม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
- กุ้งสด 5 ตัว
- ข้าวโพดอ่อน 1 ส่วน 4 ถ้วยตวง
- กะหล่ำปลี 1 ส่วน 4 ถ้วยตวง
- ถั่วฝักยาว 1 ส่วน 4 ถ้วยตวง
- น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- แครอท 1 ส่วน 4 ถ้วยตวง
วิธีทำ
- เริ่มต้นจากการตั้งน้ำสะอาดจนกว่าจะเดือดและเติมพริกแกงส้มคนให้เข้ากัน ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตามปี๊ปเพื่อปรุงรส
- ใส่ผักกับเนื้อสัตว์ที่เตรียมเอาไว้ลงไป ทำการต้มจนกว่าผักจะสุก หลังจากนั้นให้ใส่กุ้งตามลงไป
- หลังจากที่กุ้งสุกก็ปิดไฟ เทใส่ชามพร้อมรับประทานได้เลย
3.แกงเลียงกุ้งสด
อาหารประจำภาคกลาง อีกหนึ่งเมนูที่เป็นแกงโบราณ ที่ถ้าหากใครถามถึง ภาคกลางอาหาร ก็จะต้องแนะนำเมนูแกงเลียงกุ้งสด โดยมีส่วนประกอบหลักที่เป็นผักพื้นบ้าน มีรสชาติที่กลมกล่อมเผ็ดเล็กน้อยผสมผสานกับความเค็ม เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูงมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แถมยังมีวิธีการทำที่ไม่ยากอีกด้วย
ส่วนผสม
- กุ้งสด 350 กรัม
- บวบปอกเปลือก 1 ถ้วยตวง (หั่นชิ้น)
- ข้าวโพดอ่อน 1 ถ้วยตวง (หั่นชิ้น)
- ฟักทองปอกเปลือก 1 ถ้วยตวง (หั่นชิ้น)
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
- ใบแมงลัก 1 ส่วน 2 ถ้วยตวง
- พริกไทยเม็ด 12 เม็ด
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง 12 ลูก
- กุ้งแห้ง 1 ส่วน 2 ถ้วยตวง
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
- นำพริกไทย กะปิ หอมแดง น้ำปลาและกุ้งแห้งโขลกให้เข้ากันเพื่อทำพริกแกงเลียง
- ต้มน้ำในหม้อใส่พริกแกงเลียงที่ทำเอาไว้ลงไปและคนให้ละลายรอจนกว่าจะเดือด
- หลังจากนั้นให้ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่กุ้งสดกับผักสดลงไป หลังจากที่สุกแล้วก็ปิดไฟแล้วตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟได้เลย
4.ทอดมันปลากราย
ทอดมันปลากรายเป็น อาหารภาคกลาง ที่นอกจากจะสามารถรับประทานเป็น กับข้าว ได้ ก็ยังสามารถทานเล่นได้ด้วย โดยใช้ส่วนผสมหลักที่ทำจากปลาและถั่วพูเป็นหลัก มีเนื้อสัมผัสเหนียวอร่อยเผ็ดเล็กน้อยถูกปากชาวไทยทุกภาคอย่างแน่นอน แถมยังมี วิธีทำอาหาร ไม่ยากด้วย
ส่วนผสม
- เนื้อปลากราย 500 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- พริกแดง 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วฝักยาว 200 กรัม
- ใบมะกรูดซอย 4 ใบ
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำปลา 2 ช้อนชา
- น้ำมัน ครึ่งกระทะ
วิธีการทำ
- นำเนื้อปลากรายมาใส่ภาชนะเพื่อผสมกับพริกแกงใช้พายกวนให้เนื้อของปลากรายและพริกแกงเข้ากันจนกว่าเนื้อจะเริ่มเหนียว
- หลังจากนั้นให้ใส่ไข่ไก่ตามลงไปคนส่วนผสมให้เข้ากัน และทำการใส่ถั่วฝักยาวกับใบมะกรูด
- ใส่น้ำมันลงกระทะครึ่งกระทะ นำเนื้อปลากรายลงไปทอด พลิกด้านไปมาจนกว่าจะกลายเป็นสีเหลืองทั้งสองด้าน นำขึ้นมาจัดใส่จานและพร้อมเสิร์ฟได้เลย
5.น้ำพริกกะปิ
อาหารพื้นเมือง หนึ่งอย่างที่คนภาคกลางนิยมทานคู่กับผัก ปลาทู หรือเครื่องเคียงอื่น ๆ ก็คือ น้ำพริกกะปิ เป็นสูตรเด็ดของชาวภาคกลางเลยทีเดียว เพราะเป็นน้ำพริกที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน มีส่วนประกอบหลักที่ทำจากเคยกุ้ง นับว่าเป็นอีกหนึ่งน้ำพริกที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน แถมมีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากสามารถทำตามสูตรที่เรานำมาฝากกันได้
ส่วนผสม
- พริกขี้หนู 3 เม็ด
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกแดง 2 เม็ด
- กระเทียม 3 กลีบ
- มะเขือพวง
วิธีการทำ
- นำพริกขี้หนู พริกแดง น้ำตาลทราย กระเทียมลงไปตำให้แหลกในครก หลังจากในให้ใส่กะปิตามลงไปตำให้เข้ากัน
- ทำการปรุงรสด้วยน้ำปลากับมะนาว ตักใส่ถ้วยใส่มะเขือพวงโรยหน้า เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
6.ผัดไทกุ้งสด
หนึ่งในเมนูชื่อดังที่เป็น อาหารภาคกลาง ซึ่งในคนไทยและคนต่างชาติรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ ผัดไทกุ้งสด เป็นเมนูที่ถูกพัฒนามาจากก๋วยเตี๋ยวผัด ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจีนแต่มี การทำอาหาร เติมแต่งรสชาติให้เป็นแบบฉบับของชาวไทย เน้นที่รสชาติที่ครบเครื่องมีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มและหวาน
ส่วนผสม
- มันกุ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- ไชโป๊ 1 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งสด 8 ตัว
- เต้าหู้แข็งหั่นเป็นแท่งเล็ก ๆ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผัดไท 2 ทัพพี
- เส้นผัดไทยแช่น้ำ 150 กรัม
- ไข่เป็ด 2 ฟอง
- ถั่วงอก 100 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
- น้ำปลา 200 มิลลิลิตร
- น้ำมะขามเปียก 200 มิลลิลิตร
วิธีการทำ
- เริ่มต้นด้วยการทำซอสผัดไท โดยนำน้ำตาลมะพร้าว มะขามเปียกและน้ำปลามาเคี้ยวในกระทะที่ตั้งไฟเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากัน
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยหอมแดง ไชโป๊ มันกุ้ง เต้นหูผัดจนกว่าจะสุก หลังจากนั้นใส่กุ้งสดลงไปผัด เมื่อกุ้งสุกเรียบร้อยให้ตามด้วยเส้นผัดไทและซอสผัดไท
- หลังจากที่เส้นผัดไทกับซอสผัดไทเข้ากันแล้ว ให้ใส่ถั่วงอกและตอกไข่เป็ดลงไปรอจนกว่าจะสุก ผัดทุกอย่างให้เข้ากันและจัดจานพร้อมทานได้เลย
7.แกงเทโพ
แกงเทโพเป็น อาหารของภาคกลาง ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 โดยเป็นอาหารโบราณที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่วนประกอบหลักคือ กะทิ ผักบุ้ง และเนื้อสัตว์ รสชาติเข้มข้นมีความเปรี้ยว หวาน สลับกับความเค็มปรุงรสออกมาได้เป็นอย่างดี ในอดีตจะใช้ปลาเทโพในการทำแต่ปัจจุบันเลือกใช้เป็นหมูสามชั้นแทน
ส่วนผสม
- ผักบุ้งไทย 300 กรัม
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- ใบมะกรูด 4 ใบ
- มะกรูด 1 ลูก (หั่นแว่น)
- เกลือป่น
- น้ำปลา
- หมูสามชั้น 200 กรัม
- พริกแกงเผ็ด 50 กรัม
- น้ำกะทิ 2 ถ้วยครึ่ง
- น้ำเปล่า
- น้ำตาลปี๊ป
วิธีการทำ
- เริ่มต้นจากการตั้งกระทะโดยให้ใช้ไฟระดับปานกลาง เทหัวกะทิลงไปครึ่งถ้วย รอจนกว่าหัวกะทิเดือดและแตกมัน หลังจากนั้นให้ใส่พริกแกงเผ็ดลงไปคนให้เข้ากัน
- หลังจากที่กะทิเริ่มแตกมันให้ใส่หมูสามชั้นตามลงไปผัดจนหมูเริ่มสุก และทำการเร่งไฟให้มีความแรงมากขึ้น
- ทำการปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก เกลือป่น น้ำปลา และน้ำตาลปี๊ปปรุงรสชาติตามที่ต้องการ
- รอจนน้ำแกงเดือดและใส่ผักบุ้ง ลูกมะกรูดและใส่หัวกะทิที่เหลืออีกครึ่งถ้วยลงไป ปิดไฟตักใส่ชามพร้อมทานได้เลย
8.ไข่พะโล้
ต้องยอมรับเลยว่าเมนูไข่พะโล้เป็นหนึ่งในเมนูที่อยู่คู่กับครัวไทยมาอย่างยาวนาน เป็น เมนูอาหารง่ายๆ ที่สามารถทานได้ทุกวัน โดยเป็นอาหารที่ได้รับการแพร่หลายมาจากประเทศจีน คำว่าพะโล้ก็มาจากคำจีนฮกเกี้ยนซึ่งเรียกว่า ผะโล่ว ความหมายคือขั้นตอนหนึ่งของการทำพะโล้ รสชาติอร่อยถูกปากมีความหวานตัดกับความเค็มพร้อมด้วยเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมถูกใจทุกคนเป็นอย่างมาก
ส่วนผสม
- ไข่ไก่ 6 ฟอง
- กระเทียม 5 กลีบ
- รากผักชี 4 ราก
- หมูสามชั้น 200 กรัม
- พริกไทย ครึ่งช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 3 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊ป ครึ่งถ้วย
- โป๊ยกั๊ก 4 ดอก
- อบเชย 2 ชิ้น
วิธีการทำ
- เริ่มต้นจากการตั้งน้ำเปล่าใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อที่จะนำไข่มาต้มเป็นระยะเวลา 10 นาที หลังจากนั้นให้เอาไข่มาแช่น้ำเย็นและปอกเปลือกให้เรียบร้อย
- นำรากผักชี พริกไทยและกระเทียมมาทำการโขลกให้ละเอียด
- เมื่อโขลกทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้ตั้งกระทะด้วยการใช้ไฟระดับปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปผัดให้หอม หลังจากเริ่มมีกลิ่นหอมให้ใส่น้ำตาลปี๊ปตามลงไป เคี่ยวจนกว่าจะมีสีน้ำตาลเข้ม เมื่อได้สีที่ต้องการแล้วให้ใส่หมูสามชั้นลงไปผัดให้สุก
- ตามด้วยน้ำเปล่าและใส่ไข่ต้น พร้อมกับโป๊ยกั๊กกับอบเชย ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อยรอจนกว่าน้ำซุปจะเดือด หลังจากที่เดือดแล้วให้ปรับมาเป็นไฟอ่อนและเคี่ยวต่ออีก 1 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
9.ยำถั่วพู
อาหารภาคกลาง ที่รสชาติเด็ดถูกปากต้องยกให้ยำถั่วพู หนึ่งในอาหารเย็น เพราะเป็นเมนูที่มาพร้อมสีสันน่ารับประทาน แถมได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นการปรุงรสของคนในสมัยก่อนเพื่อที่จะทานผักให้อร่อยมากขึ้น มาพร้อมกับรสชาติเปรี้ยวหวาน โดยเราได้นำ สูตรอาหาร ตามแบบฉบับชาวภาคกลางมาฝาก ซึ่งมีส่วนผสมและวิธีการทำดังนี้
ส่วนผสม
- ถั่วพู 200 กรัม
- หมูสับ 100 กรัม
- พริกขี้หนูซอย 5 เม็ด
- หอมแดงซอย 3 หัว
- น้ำตาลทราย ครึ่งช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
- นำถั่วพูไปล้างให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มน้ำให้เดือดและนำถั่วพูไปลวกประมาณ 3 นาที
- หลังจากนั้นให้นำไปแช่น้ำเย็นจัดและขึ้นมาพักเอาไว้บนตะแกรงรอจนกว่าจะสะเด็ดน้ำ
- เอาหมูสับไปลวกน้ำที่ต้มเดือดให้สุกและพักเอาไว้
- เตรียมภาชนะสำหรับผสมและนำถั่วพูมาใส่ชามตามด้วยหมูสับ หอมแดงซอย พริกขี้หนูซอย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย มะนาว น้ำปลาทำการคลุกเคล้าให้เข้ากันเพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว
10.ทอดมันกุ้ง
ถ้าไม่รู้จะกินอะไรดีทอดมันกุ้งเป็นอีกหนึ่งเมนู อาหารภาคกลางง่ายๆ ที่สามารถทำรับประทานได้เองที่บ้าน โดยเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวมอญ เป็นเมนูที่กุ้งเหนียวเคี้ยวหนุบหนับอร่อยถูกปากทุกวัยเลยทีเดียว วิธีการทำก็ไม่ยากเลยทุกคนสามารถทำทานได้ที่บ้าน
ส่วนผสม
- เนื้อกุ้งสับ 350 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- มันหมูสับ 100 กรัม
- พริกไทยป่น
- แป้งอเนกประสงค์ใช้สำหรับคลุกทอด 1 ถ้วย
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วย
- น้ำจิ้มบ๊วย
วิธีการทำ
- เตรียมภาชนะเพื่อผสมมันหมูสับกับเนื้อกุ้งสับให้เข้ากัน ทำการปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น รากผักชี แป้ง และน้ำมันหอย ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันและนำไปแช่เย็นไว้ 30 นาที
- ตอกไข่ใส่ชามตีให้แตกกำลังพอดี หลังจากนั้นให้ปั้นไข่ไก่ผสมกับกุ้งเป็นก้อนกลมคลุกเคล้ากับแป้งอเนกประสงค์ ชุบลงไข่ไก่กับเกล็ดขนมปังจนทั่วชิ้น ทำแบบนี้จนเสร็จครบ ทำการเจาะรูตรงกลางทอดมันให้คล้ายคลึงกับโดนัท
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันด้วยไฟอ่อน ใส่ทอดมันกุ้งลงไปทอดจนกว่าจะมีสีเหลืองสุกทั้งหมด 2 ด้าน ตักขึ้นมาพักน้ำมันเอาไว้จัดใส่จานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยพร้อมทานได้เลย
แนะนำ อาหารภาคกลาง เมนูเด็ดอร่อยได้แบบไม่น่าเบื่อ ทำตามได้ไม่ยาก
จาก 10 สูตร อาหารภาคกลาง ที่เรานำมาฝากจะเห็นได้เลยว่าล้วนแต่เป็นอาหารยอดนิยมที่ถูกปากคนไทย มาพร้อมกับความอร่อย ทำตามได้ง่าย แถมยังสะดวกสบายเพราะทำกินเองได้ที่บ้านอีกด้วย ส่วนใหญ่ เมนูอาหารภาคกลาง จะเน้นที่รสชาติกลมกล่อมเป็นหลัก ไม่ได้เผ็ดหรือเปรี้ยวจนเกินไป เหมาะกับคนที่อยากทำให้คนที่บ้านทานได้ทุกวัย ถ้าหากไม่รู้จะทำเมนูไหนดีก็สามารถเข้ามาดูวิธีการ ทำอาหารง่ายๆ ที่เรานำมาฝากกันได้
เว็บhttps://reds4families.com/รวบรวมสูตรอาหารที่มีครบเว็บเดียว